อาร์เซนอล ผ่านบททดสอบสำคัญในเกมพรีเมียร์ ลีก สัปดาห์นี้กับชัยชนะเหนือลิเวอร์พูล 3-2 ในเกมที่ทำให้พวกเขากลับมาเป็นจ่าฝูงพร้อมกับทิ้งห่างลิเวอร์พูลไปแล้วถึง 14 คะแนนในฤดูกาลนี้
อาร์เซนอลได้สามประตูจาก กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ และสองประตูจากบูคาโย่ ซาก้า ขณะที่ ลิเวอร์พูลได้ประตูจาก แทงบอล UFABET ดาร์วิน นูนเญซ และ โรเบร์โต้ ฟีร์มิโน่ โดยนี่คือประเด็นที่น่าสนใจหลังเกมนี้
58 วินาที…เร็วที่สุดที่อาร์เซนอลเคยยิงประตูลิเวอร์พูล
ประตูแรกของเกมนี้ เกิดขึ้นในเวลาเพียง 58 วินาที จากการยิงประตูของกาเบรียล มาร์ติเนลลี่ และประตูนี้กลายเป็นประตูที่ได้รับการจารึกว่าเร็วที่สุดที่อาร์เซนอลทำประตูลิเวอร์พูลได้ในการเล่นพรีเมียร์ ลีก
"กรานิท ชาก้า" คีย์แมนหลักของทีมในฤดูกาลนี้
หาก โธมัส ปาเตย์ เป็นเหมือนคนควบคุมจังหวะของเกมแดนกลางอาร์เซนอล กรานิท ชาก้า ก็เหมือนเจอกับตำแหน่งที่เหมาะกับเขาอย่างยิ่ง แทงบอล กับการเล่นเป็นเหมือนกองกลางตัวสอดขึ้นมาเพิ่มมิติในเกมรุกให้กับทีม และกลายเป็นหนึ่งในอาวุธลับของทีมในฤดูกาลนี้ ภายใต้ระบบการเล่น 4-1-4-1 ซึ่งมี โธมัส ปาเตย์ กองกลางตัวรับกาน่า เป็นเหมือนผู้คุมจังหวะเกมของทีม และเกมนี้จากการเล่นของชาก้านำมาซึ่งประตูชัยที่มาจากจากการได้จุดโทษอีกด้วย
วินัย-ความขยัน และการเล่นเพรสซิ่งสูงที่ได้ผลในเกมนี้
การเล่นเพรสซิ่งตั้งแต่แดนบนเป็นการเล่นที่อาร์เซนอลเลือกนำมาใช้แทบทุกเกมเพื่อสร้างโอกาสในการสร้างเกมรุก แต่เกมนี้แม้ว่าจะไม่ได้ฉกฉวยโอกาสอะไรมากนัก แต่ก็กลายเป็นการรบกวนการต่อบอลของลิเวอร์พูลเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในช่วงท้ายเกมซึ่ง ลิเวอร์พูล ต้องการดันเกมรุกเต็มที่ แนวรุกอาร์เซนอลยังคงทำงานหนักเพื่อเบรกชะลอเกมให้ได้มากที่สุด และพวกเขาทำได้
การใช้งาน “โทมิยาสุ” กับตำแหน่งแบ็คซ้าย
แนวรับทีมชาติญี่ปุ่นเคยกล่าวว่าเขาสามารถเล่นได้ทุกตำแหน่งในแนวรับ แต่การเลือกส่งเขาลงเล่นในตำแหน่งแบ็คซ้ายตั้งแต่นาทีแรกของเกม เป็นการเลือกที่น่าประหลาดใจแฟนบอล และคีแรน เทียร์นีย์ แบ็คซ้ายทีมชาติสกอตแลนด์ที่หลุดไปสำรองไม่น้อย แต่เมื่อจบ 90 นาที ผลงานของแนวรับซามูไร ปิดตายเกมรุกทางขวาของลิเวอร์พูลได้ค่อนข้างชัวร์ อาจไม่สมบูรณ์แบบ แต่กว่าจะผ่านเขาไปได้ก็ไม่ง่าย และด้วยการลงเล่นในตำแหน่งนี้ ทำให้สถานการณ์ของการเล่นตัวจริงภายในทีมของอาร์เซนอล เป็นเรื่องที่เต็มไปด้วยการแข่งขันภายในทีมอย่างยิ่ง นายใหญ่ หงส์แดง จัดทัพโดยใช้การขับเคลื่อนในรูปแบบ 4-2-3-1 ต่อเนื่องหลังจากใช้แผนดังกล่าวในการเก็บชัยชนะเหนือ เรนเจอร์ส ในแมตช์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมาโดย จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ปักหลักคัดท้ายเคียงข้างกับ ติอาโก้ อัลคันทารา ที่แดนกลางโดยมี ดิโอโก้ โชต้า ขับเคลื่อนเกมรุกด้านหลัง ดาร์วิน นูนเญซ รูปแบบข้างต้นได้ผลอยู่บ้างในช่วง 45 นาทีแรกแม้จะตกเป็นฝ่ายตามหลังจากการถูกเผาเครื่องฝั่ง เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ หากแต่เกมในครึ่งหลังจากที่พวกเขาสามารถตามตีเสมอ เดอะกันเนอร์ส 2-2 สำเร็จกลับรวนไม่เป็นท่า ทีมของ คล็อปป์ ไม่อาจยืนระยะบดบี้เจ้าถิ่นได้ต่อเนื่อง โมเมนตัมของเกมกลับไปอยู่กับฝั่ง ไอ้ปืนใหญ่ พลังของแดนกลางโรยราและถดถอยเมื่อเวลาผ่านไปจนทำนบมาแตกเอาที่สุดจากการเสียลูกจุดโทษให้ ซาก้า สังหารไม่พลาด แม้นายใหญ่ชาว เยอรมัน จะพยายามแก้เกมโดยส่งไพ่หมดหน้าตักทั้งหมด 5 แข้งสำรองเปลี่ยนลงสนาม ไปจนถึงการปรับมายืน 4-4-2 ช่วงท้ายเมื่อต้องการประตูตีเสมอก็ไม่อาจสร้างแรงกระเพื่อมใดๆ กับเกมที่ เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ได้

ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น